ปฏิบัติตนอย่างไรในเดือนแห่งการอภัยโทษ?
بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
ในบรรดาหะดิษต่าง ๆ ที่ซอฮิห์จากท่าน ร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั้น มีสิ่งที่บรรดามุสลิมส่วนมากได้ทราบถึงข่าวดีอันยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาไม่รู้ถึงความหมายอันลึกซึ้งที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ต้องการจะบอกจากคำสอนของบรรดาหะดิษดังกล่าว ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจผิดต่อหะดิษเหล่านี้และแทนที่พวกเขาจะนำบรรดาหะดิษเหล่านี้ทำให้ร่องรอยแห่งความเสียหายและความผิดกลับกลายเป็นการดำรงมั่นในหนทางของอัลเลาะฮ์ตาอาลา แต่ทว่าในดำเนินชีวิตของพวกเขากลับปฏิบัติค้านกับคำสอนดังกล่าว
ส่วนหนึ่งจาหะดิษเหล่านั้น คือหะดิษที่ได้รายงานบุคอรีและมุสลิม จากท่านอบูฮุร๊อยเราะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ความว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
مَنْ قَامَ رَمَضَانَ إِيمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
"ผู้ใดที่ดำรง(ละหมาด)ในเดือนรอมะดอนโดยมีความศรัทธา(ต่อสัญญาของอัลเลาะฮ์) และแสวงหาการตอบแทน(จากความเมตตาของพระองค์) เขาก็จะถูกอภัยโทษให้จากบาปที่ล่วงผ่านมาแล้ว"
مَنْ صَامَ رَمَضَانَ إِيمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ وَمَنْ قَامَ لَيْلَةَ الْقَدْرِ إِيمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
"ผู้ใดถือศีลอดในเดือนร่อมาดอนโดยมีความศรัทธา(ต่อสัญญาของอัลเลาะฮ์)และแสวงหาการตอบแทน(จากความเมตตาของพระองค์) เขาก็จะถูกอภัยโทษให้จากบาปที่ล่วงผ่านมาแล้วและผู้ใดดำรง(ละหมาด)ในคืนลัยละตุลก่อดัรโดยมีความศรัทธาและแสวงหาการตอบแทน เขาก็จะถูกอภัยโทษให้จากบาปที่ล่วงผ่านมาแล้ว"
และท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวเช่นกันว่า
مَنْ حَجَّ فَلَمْ يَرْفُثْ وَلَمْ يَفْسُقْ غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
"ผู้ใดทำฮัจญ์ แล้วเขาไม่พูดจาหยาบคายและไม่ประพฤติชั่ว เขาก็จะถูกอภัยโทษให้จากบาปที่ล่วงผ่านมาแล้ว" ติรมีซีย์( (816) ฮะดิษหะซันซอฮิห์
ผู้คนส่วนมากคิดว่าสองหะดิษขึ้นต้นคือสิ่งใหม่ที่เขาได้รับกลับคืนมา โดยที่บางคนจากพวกเขาอาจจะมีบาปหนา แต่เขาพบว่าการถือศีลอดในเดือนรอมะดอนนั้น คือสิ่งที่ทำให้เขารอดพ้นจากบรรดาบาปทั้งหมด และบางคนคิดว่าการมุ่งไปสู่บัยตุลลอฮ์เพื่อทำฮัจญ์นั้น เขาจะได้กลับมาอย่างบริสุทธิ์เหมือนกับวันที่เขาคลอดออกมาจากครรภ์มารดา บริสุทธิ์จากบาปทั้งหลาย แต่เมื่อคราวต่อไปเขาได้พบว่าตนเองได้ก่อกรรมกระทำบรรดาบาปดังกล่าวนั้นอีก เขาก็เฝ้ารอยาที่จะมาเยี่ยวยารักษา คือเดือนรอมะดอนที่จะมาถึงหรือการประกอบพิธีฮัจญ์ที่บัยตุลลอฮ์ และเช่นดังกล่าวนี้เขาจึงมั่นใจว่าบรรดาบาปต่าง ๆ จะไม่ทำให้เขาถูกขวางกั้นจากอัลเลาะฮ์ เพราะเขาสามารถที่จะถือศีลอดในเดือนรอมะดอน ซึ่งบรรดาบาปทั้งหมดจะมลายสิ้นไปโดยเขาจะกลับกลายเป็นคนที่สะอาดบริสุทธิ์จากบาปทั้งหลายอีกครั้ง
ท่านผู้ศรัทธาทั้งหลาย! ในแง่ใดหรือที่เขามีความผิดพลาดในการเข้าใจหะดิษต่าง ๆ เหล่านี้ ? ซึ่งความผิดพลาดนั้นก็คือ เขาได้จินตนาการไปว่า บรรดาการตออัตภักดีต่าง ๆ เช่นการถือศีลอด การทำฮัจญ์ที่บัยตุลลอฮ์ และการปฏิบัติฟัรดูต่าง ๆ นั้น คืออิบาดะฮ์ที่จะเปิดทางให้มนุษย์เดินไปสู่ความพึงพอใจต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา และยังเป็นสิ่งที่จะมาปิดกั้นระหว่างเขาและความโกรธกริ้วของพระองค์ ทั้งที่ความจริงแล้วมิใช่เป็นเช่นนั้น
เพราะความจริงแล้ว บรรดาการฏออัตคือผลลัพธ์ที่ทำให้เขาไปถึงอัลเลาะฮ์ตาอาลา และผลลัพธ์ที่ทำให้บ่าวไปถึงความพึงพอใจของอัลเลาะฮ์ตาอาลานั้น คืออีหม่านอันมั่นคงที่อยู่ในศักยภาพของตัวเขา ซึ่งอัลเลาะฮ์ตาอาลาได้ทรงตรัสเกี่ยวกับถ้อยคำที่ดีงามไว้ความว่า
مَثَلاً كَلِمَةً طَيِّبَةً كَشَجَرَةٍ طَيِّبَةٍ أَصْلُها ثابِتٌ وَفَرْعُها فِي السَّماءِ، تُؤْتِي أُكُلَها كُلَّ حِينٍ بِإِذْنِ رَبِّها
"อุปมาถ้อยคำอันดีเยี่ยม (คือลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์) ประหนึ่งต้นไม้ที่ดีซึ่งโคนของมันมั่นคง (อยู่ในพื้นดิน) และกิ่งของมันชูขึ้นสูงสู่เบื้องฟากฟ้า (ซึ่งต้นไหม้นั้น) มันให้ผลบริโภคของมันได้อยู่ตลอดเวลา(ทุกฤดูกาล) ด้วยอนุมัติแห่งองค์อภิบาลของมัน" อิบรอฮีม : 25
ถ้อยคำอันดีเยี่ยมนี้ซึ่งอัลเลาะฮ์ได้เผยให้ตระหนักถึงอะกีดะฮ์หรืออีหม่านที่สมควรให้มั่นคงอยู่ในจิตใจของเขา ซึ่งมันเป็นวิญญาณแห่งการฏออัตและมันเป็นเครื่องหมายที่อัลเลาะฮ์ตาอาลาจะทรงตอบรับการฏออัต ดังนั้นหากเขามีถ้อยคำอันดีเยี่ยมนี้แล้ว อะกีดะฮ์และการฏออัตก็จะได้ผลตอบ
เพราะฉะนั้น หากบุคคลหนึ่งได้ทำอิบาดะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลา โดยอีหม่านและความยาเกนของเขาเต็มเปี่ยมอยู่ในห้วงหัวใจ แน่แท้ว่าอัลเลาะฮ์จักทรงอภัยโทษให้แก่เขา "ผู้ใดที่กล่าวลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจเขาจะได้เข้าสวรรค์" อย่างไม่ต้องสงสัยอันใด และขณะเดียวกันหากบุคคลหนึ่งในชีวิตของเขาเต็มไปด้วยการทำอิบาดะฮ์ฏออัตภักดี ทำการถือศีลอด ทำฮัจญ์ แต่ทว่าอะกีดะฮ์และอีหม่านของเขามีความสงสัยและความเบี่ยงเบนสอดแทรกเข้ามา แน่นอนว่าบรรดาการฏออัตของเขาทั้งหมดนั้นย่อมไม่มีประโยชน์อันใด นี้คือข้อเท็จจริงที่เราควรรู้เอาไว
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย เราลองหวนกลับมาพิจารณาคำพูดของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า
مَنْ قَامَ رَمَضَانَ إِيمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
"ผู้ใดที่ดำรง(ละหมาด)ในเดือนรอมะดอนโดยมีความศรัทธา(ต่อสัญญาของอัลเลาะฮ์) และแสวงหาการตอบแทน(จากความเมตตาของพระองค์) เขาก็จะถูกอภัยโทษให้จากบาปที่ล่วงผ่านมาแล้ว"
مَنْ صَامَ رَمَضَانَ إِيمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ وَمَنْ قَامَ لَيْلَةَ الْقَدْرِ إِيمَانًا وَاحْتِسَابًا غُفِرَ لَهُ مَا تَقَدَّمَ مِنْ ذَنْبِهِ
"ผู้ใดถือศีลอดในเดือนร่อมาฏอนโดยมีความศรัทธา(ต่อสัญญาของอัลเลาะฮ์)และแสวงหาการตอบแทน(จากความเมตตาของพระองค์) เขาก็จะถูกอภัยโทษให้จากบาปที่ล่วงผ่านมาแล้วและผู้ใดดำรง(ละหมาด)ในคืนลัยละตุลก่อดัรโดยมีความศรัทธาและแสวงหาการตอบแทน เขาก็จะถูกอภัยโทษให้จากบาปที่ล่วงผ่านมาแล้ว"
ความหมายของคำกล่าวของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นี้คือ ท่าน ณ เวลานี้ได้ทำการถือศีลอดซึ่งเป็นการฏออัตภักดีที่สามารถทำความสะอาดให้แก่ตัวของท่านซึ่งเปรียบเสมือนบ้านที่มีฝุ่นและดินทับถมอย่างแน่นหนา และ ณ เวลานี้บ้านของท่านกลับเกลี้ยงสะอาด แล้วอะไรหรือที่ท่านต้องกระทำอีก? ซึ่งสิ่งที่ท่านถูกใช้ให้กระทำอีกนั้นก็คือ ต้องคอยหมั่นดูแลรักษาบ้านของท่านหลังนี้ เพื่อไม่ให้ฝุ่นดินพัดผ่านเข้ามาอีกเป็นครั้งต่อไปจนเป็นเหตุให้ฝุ่นทับถมจนเป็นดินที่สกปรก ดังนั้นสิ่งที่ท่านถูกใช้ให้กระทำต่อไปก็คือ ให้ท่านปิดบรรดาหน้าต่างภายในบ้าน คอยดูแลรักษาบ้านให้มีความสะอาดจากสิ่งสกปรก
แต่ถ้าหากว่าท่านมีความปีติยินดีที่บ้านของท่านมีความสะอาด โดยฝุ่น ดิน และสิ่งสกปรกทั้งหมดได้หายไปแล้วและบ้านก็มีความสะอาดตา แต่หลังจากนั้นท่านได้ละเลยต่อมัน แน่นอนว่าไม่นานบ้านของท่านก็จะหวนกลับมาเป็นสภาพดังเดิม ยิ่งกว่านั้น อาจจะเลวร้ายกว่าจากสิ่งที่เคยเป็นอยู่เสียอีก ทั้งที่อัลเลาะฮ์จักทรงประทานให้บัญชีบันทึกอะมัลของท่านขาวสะอาดหลังจากรอมะดอนจากไปแล้ว ดังนั้นท่านสมควรจะปฏิบัติตนอย่างไร? นั่นก็คือให้ท่านหมั่นดูแลรักษาบัญชีบันทึกคุณงามความดีอันขาวสะอาดนี้ไม่ให้กลับมามืดดำเป็นครั้งที่สอง แล้ววิธีดูแลรักษาจะทำอย่างไร? วิธีรักษาก็คือให้อะกีดะฮ์อีหม่านของท่านได้รับการบำรุงอย่าให้มีความคลางแคลงสงสัยเข้ามาครอบงำ ซึ่งวิธีการบำรุงอีหม่านก็คือการกล่าวซิกรุลลอฮ์ให้มาก ๆ การซิกรุลลอฮ์คือป้อมปราการที่จะมารักษาให้บัญชีบันทึกอะมัลของท่านมีความขาวสะอาดไม่กลับมามืดดำอีกต่อไป ซึ่งบางครั้งท่านพี่น้องไม่ได้ตระหนักความหมายจากคำตรัสของอัลเลาะฮ์ ตาอาลา ความว่า
وَلا تُطِعْ مَنْ أَغْفَلْنا قَلْبَهُ عَنْ ذِكْرِنا وَاتَّبَعَ هَواهُ وَكانَ أَمْرُهُ فُرُطاً
"และเจ้าอย่าเชื่อฟังผู้ที่ทำให้หัวใจของเขาลืมเลือนจากรำลึก(ซิกิร)ถึงเรา และเขาได้หลงตามอารมณ์ชั่วของเขา และการงานของเขานั้นเป็นสิ่งละเมิดโดยแท้" อัลกะฮฺฟิ 28
กล่าวคือ บุคคลหนึ่งที่ลืมจากการซิกรุลลอฮ์(รำลึกถึงพระองค์) เขาก็จะตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของเขา และการงานของเขาหลังจากนั้นจะกลายเป็นการละเมิดนั่นเอง
หากมีคนบุคคลหนึ่งกล่าวว่า ฉันนี้เป็นผู้ที่มีอีหม่านที่เข้มแข็งมั่นคงอยู่ในหัวใจ ฉันไม่มีความสงสัยและครางแครงใด ๆ ต่ออีหม่านที่มีให้กับอัลเลาะฮ์ และฉันได้ชำระตนเองให้สะอาดจากบาปต่าง ๆ ด้วยการถือศีลอดเดือนรอมะดอนแล้ว เพราะฉะนั้น ฉันจึงมีความสบายใจ
แต่เราขอกล่าวแก่เขาผู้นั้นด้วยคำตรัสของอัลเลาะฮ์ตาอาลา ความว่า
فَلا يَأْمَنُ مَكْرَ اللَّهِ إِلاّ الْقَوْمُ الْخاسِرُونَ
"ที่จริงแล้ว ไม่มีผู้ใด (รู้สึก) รอดพ้นแผนการณ์ของอัลเลาะฮ์ไปได้เลย นอกจากกลุ่มชนที่ขาดทุนเท่านั้น" อัลอะอฺรอฟ 99
อย่างไรหรือคือแผนการณ์ของอัลเลาะฮ์ ? แผนการณ์ของอัลเลาะฮ์จะมาในตอนนี้กระนั้นหรือ? ดังนั้นแผนการณ์ของอัลเลาะฮ์มิได้พิจารณาในช่วงเวลาขณะนี้ ซึ่งเป็นเวลาที่ท่านสุขสบาย เป็นช่วงเวลาที่ท่านคิดว่ามีอีหม่านที่มั่นคง เชื่อในความเอกภาพและความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์ เพราะฉะนั้นการพิจารณามิใช่ในช่วงเวลานี้ แต่แผนการณ์ของอัลเลาะฮ์เราจะวัดกันในขณะที่ท่านป่วยใกล้ตาย ในขณะที่มะลาอิกะตุลเมาต์กำลังจะถอดวิญญาณ ซึ่งช่วงเวลานั้นแหละ จะมีการพิสูจน์ว่าอีหม่านของท่านยังมั่นคงอยู่หรือว่าสั่นคลอนไปเสียแล้ว
ดังนั้น สิ่งที่ได้กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด พวกท่านทั้งหลายสมควรต้องตระหนักให้จงดี อย่าเรียกร้องให้ชัยฏอนมาอธิบายคำกล่าวของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้ขัดแย้งกับเป้าหมายที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ต้องการ
และเราก็ขอกล่าวปิดท้ายกับท่านทั้งหลายว่า มนุษย์ที่อัลเลาะฮ์ทรงอภัยโทษบรรดาบาปทั้งหลายให้นั้น เขาจะต้องพบว่าตนเองได้ตั้งใจมุ่งสู่อัลเลาะฮ์ตาอาลาอยู่เสมอ และเขาต้องพบว่าบรรดาสิ่งที่อัลเลาะฮ์ตาอาลาทรงห้ามนั้น ได้ถูกปิดจากตัวเขา ดังนั้นหัวใจของเขาก็จะได้รับการเปิดสำหรับการมุ่งมั่นไปสู่อัลเลาะฮ์ตาอาลา โดยจิตใจของเขาจะไม่ทนทุกข์ต่ออารมณ์ใฝ่ต่ำ
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า
فَمَنْ يُرِدِ اللَّهُ أَنْ يَهْدِيَهُ يَشْرَحْ صَدْرَهُ لِلإِسْلامِ وَمَنْ يُرِدْ أَنْ يُضِلَّهُ يَجْعَلْ صَدْرَهُ ضَيِّقاً حَرَجاً كَأَنَّما يَصَّعَّدُ فِي السَّماءِ
"ดังนั้นผู้ใดที่อัลเลาะฮ์ทรงปรารถนาที่จะชี้นำเขา แน่นอนพระองค์จะทรงเปิดจิตใจของเขาเพื่ออิสลาม และผู้ใดที่พระองค์ทรงปรารถนาที่จะยังความหลงผิดแก่เขา พระองค์ก็จะทรงบันดาลให้จิตใจของเขาคับแคบ อีกทั้งตีบตันประดุจเขากำลังขึ้นไปในฟากฟ้า" อัลอันอาม 125
ดังนั้น บุคคลหนึ่งจะต้องไม่กล่าวว่า ฉันคือผู้ที่ได้ทำการถือศีลอดรอมะดอนแล้ว ฉะนั้นฉันก็จะไม่กลับไปสู่ที่ฉันเคยเป็นอีกแล้ว ซึ่งความรู้สึกเช่นนี้ เป็นหลักฐานยืนยันว่า เขาไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งจากผู้ที่ถือศีลอดในเดือนรอมะดอนโดยมีอีหม่านและแสวงหาความโปรดปรานจากพระองค์
أقول قولي هذا وأستغفر الله العظيم لى ولكم
โดย
What does a casino do? | DrmCD
ตอบลบFor all the things 시흥 출장샵 gambling, a casino no deposit bonus 충청북도 출장안마 is a way to entice you to use 포항 출장샵 casino slots and then 정읍 출장샵 deposit 포항 출장안마 money to play slots, blackjack,