بسم الله الرحمن الرحيم
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
الحمد لله رب العالمين و الصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلي اله وصحبه أجمعين
ความตายสัจจะธรรมที่ถูกลืม
ท่านผู้ศรัทธาทั้งหลาย! ไม่ว่าท่านจะเป็นคนร่ำรวย เป็นคนอยากจน เป็นกรรมกร เป็นข้าราชการ มีต่ำแหน่งการงานสูง ๆ เป็นคนเดินดินหรือนั่งรถสวยหรู ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นย่อมมีจุดจบเดียวกัน นั่นก็คือ ความตาย!
ท่านผู้ศรัทธาทั้งหลาย! ในวันนี้กระผมจะพูดกับท่านเกี่ยวกับเรื่องหนึ่ง ซึ่งผู้คนส่วนมากจะเกิดความเบื่อหน่ายและไม่ชอบสดับรับฟัง นั่นก็คือเรื่องความตาย ซึ่งการรำลึกถึงความตายที่พร้อมกับรู้ถึงแก่นแท้ของมันนั้นสามารถตัดเขี้ยวเล็บแห่งความอธรรมและการฝ่าฝืนได้ การรำลึกถึงความตายพร้อมกับรู้ถึงแก่นแท้ของมันนั้นสามารถขจัดความเสียหายประเภทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม การรำลึกถึงความตายพร้อมกับรู้ถึงแก่นแท้ของมันนั้นสามารถขัดเกลาจรรยามารยาทของเราได้ และการรำลึกถึงความตายพร้อมกับรู้ถึงแก่นแท้ของมันนั้นสามารถทำให้สังคมประดับประดาไปด้วยผู้คนที่มีพฤติกรรมที่ดีงาม
เหตุใดต้องรำลึกถึงความตายก่อนการมีชีวิต?
ท่านผู้ศรัทธาทั้งหลาย! การรำลึกถึงความตายนั้น คือสิ่งที่มาเป็นเกราะป้องกันเพื่อทำให้ท่านสามารถเดินทางได้อย่างมั่นคงโดยไม่พลาดตกลงไปในความผิดและความเสียหาย และการรำลึกถึงความตายนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถกำหนดเส้นทางก่อนที่จะเริ่มเดินทางแห่งชีวิตได้
ดังนั้น อัลเลาะฮ์ทรงเน้นความตายอยู่ก่อนความมีชีวิตก็ด้วยสาเหตุนี้ ทั้งที่เราทั้งเราทราบดีว่าเวลาที่จะตายนั้นต้องอยู่ลำดับหลังจากการมีชีวิตเสียก่อน
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสว่า
تَبارَكَ الَّذِي بِيَدِهِ الْمُلْكُ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ، الَّذِي خَلَقَ الْمَوْتَ وَالْحَياةَ لِيَبْلُوَكُمْ أَيُّكُمْ أَحْسَنُ عَمَلاً وَهُوَ الْعَزِيزُ الْغَفُورُ
?องค์พระผู้ซึ่งอำนาจการปกครองอยู่ในกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ทรงเกียรติเลิศเลอยิ่ง และพระองค์ทรงอานุภาพเหนือทุก ๆ สิ่ง พระผู้ทรงบันดาลความตายและความมีชีวิต เพื่อทดสอบพวกเจ้าว่า ผู้ใดในหมู่พวกเจ้าบ้างที่มีผลงานอันดีงาม และพระองค์ทรงอำนาจยิ่ง ทรงให้อภัยยิ่ง? อัลมุลกิ : 1-2
ดังนั้น อัลเลาะฮ์ทรงประสงค์ให้เราตระหนักว่า ความตายนั้นแม้นว่าจะมาหลังจากการมีชีวิตอยู่ก็จริง แต่มันเป็นเกราะที่มาป้องกันให้มนุษย์มีวิถีชีวิตอย่างปลอดภัย เพราะฉะนั้น พระองค์จึงทรงกล่าวความตายก่อนการมีชีวิตอยู่ เพื่อชี้ให้เห็นว่า เราจำเป็นต้องรำลึกถึงความตายก่อนการดำเนินชีวิตในโลกดุนยา และให้ท่านดำเนินชีวิตเหมือนกับท่านใกล้จะถึงเวลาตายนั่งเอง
ความตายนั้นคือเหตุร้ายหรือไม่?
ความจริงแล้วมิใช่เป็นเช่นนั้น แม้อัลเลาะฮ์ทรงพรรณนาว่าความตายคือเหตุร้าย ดังคำตรัสของพระองค์ความว่า
فَأَصابَتْكُمْ مُصِيبَةُ الْمَوْتِ
?ดังนั้นเหตุร้ายของความตายได้มาประสบแก่พวกเจ้า? อัลมาอิดะฮ์ :109
ดังนั้น เหตุร้ายที่อัลเลาะฮ์ได้ทรงกล่าวพรรณนาไว้นั้น ไม่ใช่เป็นเหตุร้ายของผู้ที่กำลังจะจากโลกนี้ไป แต่ทว่ามันเป็นเหตุร้ายสำหรับคนรักและวงศาคณาญาติทั้งที่พวกเขาจะมีความโศกเศร้าและมีความเจ็บปวดเมื่อต้องมีการพลัดพราก ซึ่งเหตุร้ายนี้ก็คือเหตุร้ายของการพลักพราก ดังนั้นเหตุร้ายนี้จะตกอยู่บนผู้ใดหรือ? ย่อมไม่ใช่ผู้ที่จากไป แต่ตกอยู่บนผู้มีชีวิตอยู่ซึ่งผู้เป็นที่รักได้จากพวกเขาไป สำหรับผู้ตายนั้น หากเขาอยู่ในความตายที่น่าปิติยินดี เขาก็จะได้รับความสุขตามที่ได้รับสัญญาเอาไว้ และหากเขาอยู่ในความหมายของความตายที่อยู่ในเหตุร้าย เขาก็จะได้ประสบกับมันตามที่สัญญาไว้
ดังนั้น คนที่มีชีวิตสามารถที่จะวาดหวังความตายให้อยู่ในความหมายของเหตุร้ายได้ถ้าหากเขาต้องการ หรือเขาสามารถวาดความตายให้เป็นความปิติยินดีก็ได้ ถ้าหากเขาต้องการเช่นนั้น เพราะฉะนั้นผู้ที่มีชีวิตอยู่ในขณะนี้ จึงมีโอกาสแล้ว! ที่ จะสามารถวาดหวังความตายของเขาให้เป็นอย่างไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ
ฉะนั้น หากท่านต้องการที่จะวาดหวังความตายให้เป็นความปิติยินดี ท่านก็จงประพฤติดี หมั่นรำลึกถึงอัลเลาะฮ์ ละหมาดให้ครบห้าเวลา ถือศีลอดในเดือนรอมะฏอน ปฏิบัติตามสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงบัญญัติใช้และละทิ้งสิ่งที่พระองค์ทรงบัญญัติห้าม แต่หากท่านต้องการที่จะวาดหวังให้ความตายเป็นเหตุร้าย ก็นึกแต่เรื่องดุนยา ละทิ้งละหมาด ไม่ถือศีลอด สร้างความเดือนร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น เนรคุณพ่อแม่ ปฏิบัติสิ่งที่อัลเลาะฮ์ทรงห้าม แล้วท่านจะได้รับตามสิ่งที่ได้วาดหวังเอาไว้
นี้คือข้อเท็จจริง โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย วันหนึ่งสุไลมาน บุตร อับดุลมาลิก หนึ่งในคอลิฟะฮ์บนีอุมัยยะฮ์ ได้ไปเยี่ยมท่านอบูหาซิม أبو حازم ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ สุไลมานได้เข้าไปนั่งใกล้ท่านอบูหะซิมเหมือนกับศิษย์นั่งใกล้ ๆ ครู แล้วเขากล่าวว่า โอ้ อบู หาซิม อะไรหรือที่ทำให้เรารังเกียจความตาย? อบูหาซิมกล่าวว่า เพราะพวกท่านทำนุบำรุงโลกดุนยาของพวกท่าน และในขณะเดียวกันพวกท่านได้ทำลายอาคิเราะฮ์ของพวกท่าน ดังนั้น พวกท่านก็จะรังเกียจที่จะย้ายจากที่พำนักอันจำเริญไปสู่ที่พำนักอันเสื่อมโทรม สุไลมานกล่าวถามว่า แล้วเราจะไปหาอัลเลาะฮ์ในสภาพอย่างไรหรือ? ท่านอบูหาซิม กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ประพฤติดี เขาย่อมเสมือนกับผู้เคยอยู่ห่างไกลที่กำลังเดินทางไปหาครอบครัว สำหรับผู้ที่ประพฤติชั่วนั้น เขาเหมือนกับทาสที่หนีนายซึ่งถูกลากให้ไปพบกับนายของเขา
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! มีความจำเป็นหรือไม่ที่เราต้องพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้คนทั้งหลายปิดกั้นตนเองที่จะให้ความสนใจมัน เราพูดเพื่อที่จะให้เราพากเพียรทุ่มเททุกวิถีทางเพื่อให้เรากลายเป็นคนดี หลังจากนั้น เมื่อเราได้กลับไปสู่ผู้อภิบาลของเราในวันพรุ่งนี้ การกลับไปของเราสู่พระองค์นั้นก็เสมือนกับผู้ที่เคยอยู่ห่างไกลซึ่งกำลังกลับไปหาครอบครัวของเขาหรือไม่? และเราไม่จำเป็นต้องรำลึกถึงความตายกระนั้นหรือ? เพื่อจะไม่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งจากผู้ประพฤติชั่วและเพื่อไม่ให้เป็นเฉกเช่นทาสที่หนีนายซึ่งกำลังถูกลากตัวไปพบกับนายของเขาเพื่อรอคอยการลงทัณฑ์
ด้วยเหตุนี้แหละที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า ?ผู้ใดรักที่จะได้พบกับอัลเลาะฮ์ พระองค์ก็จะทรงรักที่จะพบกับเขา และผู้ใดรังเกียจที่จะได้พบกับอัลเลาะฮ์ พระองค์ก็จะทรงรักเกียจที่จะพบกับเขา?
หะดิษนี้คือความหมายของคำกล่าวของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งท่านหญิงอาอิชะฮ์ได้กล่าวถามท่านว่า ?มันคือความตายกระนั้นหรือ โอ้ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์? ดังนั้น พวกเราทุกคนจึงรังเกียจความตาย? ท่านร่อซูลลุลเลาะฮ์ กล่าวว่า ?ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก แต่ทว่าผู้ศรัทธานั้น เมื่อความตายย่างใกล้มาถึง เขาจะได้รับข่าวดีด้วยความพึงพอพระทัยของอัลเลาะฮ์และสรวงสวรรค์ของพระองค์ ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งใดจะเป็นที่รักยิ่งไปยังเขามากไปกว่าความตายแล้วได้พบกับอัลเลาะฮ์ และเมื่อคนกาเฟรได้ถึงความตาย เขาจะถูกแจ้งข่าวดีด้วยกับความพิโรธของอัลเลาะฮ์ ดังนั้น จึงไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เขาทุกข์ใจยิ่งไปกว่าการได้พบกับอัลเลาะฮ์ตาอาลา?
ดังนั้น บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! พวกท่านจงตระเตรียมเสบียงไว้ก่อนตายเถิด ด้วยการรีบทำความดีก่อนที่ความตายจะมาเยือน ละหมาดห้าเวลาท่านปฏิบัติครบแล้วหรือยัง? ซึ่งถ้าหากยังไม่ครบท่านจงกอฏอชดใช้เถิด ถึงหากแม้นว่าท่านเคยขาดละหมาดมากมายจนไม่สามารถคณานับได้ก็ตาม เพราะหลังจากที่ท่านได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น ท่านก็จะไม่สามารถอุทรห์ขอแก้ตัวได้อีกแล้ว และการที่อัลเลาะฮ์ตาอาลาทรงให้เรามีชีวิตอยู่ในขณะนี้นั้น เพราะพระองค์ทรงเปิดโอกาสให้เราทำเตาบะฮ์แก้ไขปรับปรุงตัวเองในการทำความดีต่อพระองค์ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะไปพบกับอัลเลาะฮ์ตาอาลา
มีคำถามหนึ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวของเราเป็นคนดีหรือเป็นคนไม่ดีกันแน่? กล่าวคือ หากมีคนหนึ่งถามท่านว่า ?ถ้าอัลเลาะฮ์ให้ท่านตายในขณะนี้ท่านพร้อมใหม?? ดังนั้น หากท่านพร้อมที่จะตายในขณะนี้ ท่านย่อมเป็นคนดีที่ต้องการไปพบกับอัลเลาะฮ์ตาอาลา แต่ถ้าหากท่านรู้สึกยังไม่พร้อม แสดงว่าท่านยังเป็นคนไม่ดีและยังไม่ต้องการที่จะไปพบกับอัลเลาะฮ์ตาอาลา เพราะฉะนั้น ท่านจงเป็นเสมือนกับผู้ที่เคยอยู่ห่างไกลที่กำลังเดินทางไปพบครอบครัวเถิด อย่าเป็นเหมือนทาสที่หนีนายซึ่งกำลังถูกลากตัวกลับหานายเพื่อรอการลงทัณฑ์เลย
قُلْ إِنَّ الْمَوْتَ الَّذِي تَفِرُّونَ مِنْهُ فَإِنَّهُ مُلاقِيكُمْ
"จงประกาศเถิดว่า แท้จริงความตายที่พวกท่านกำลังหลบหนีจากมันนั้น มันจะประสบกับพวกท่านอย่างแน่นอน" อัลญุมุอะฮ์ : 8
أقول قولى هذا وأستغفر الله لي ولكم
คัดลอกจาก
http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php/topic,1147.0.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น